การลงทุนแต่ละรูปแบบ จะได้รับผลตอบแทนที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าการลงทุนใดที่มีความเสี่ยงน้อยก็จะได้รับผลตอบแทนน้อย และการลงทุนมีความเสี่ยงสูงก็จะให้ผลตอบแทนมากกว่า เป็นไปตามกฎ High Risk, High Return นั่นเอง
ซึ่งวันนี้เราจะลองมาเรียงลำดับการลงทุนประเภทต่างๆ จากความเสี่ยงน้อยไปมากกันครับ
1.เงินฝากธนาคาร
ผลตอบแทนของเงินฝากธนาคารอยู่ในรูปของอัตราดอกเบี้ย ดอกเบี้ยที่ได้จากเงินฝากธนาคารในปัจจุบันถือว่า”ต่ำ”มากเมื่อเทียบกับการลงทุนในแบบอื่น ๆ เหตุผลหลักก็เป็นเรื่องของความปลอดภัยของเงินต้นที่มีสูง และความคล่องตัวเมื่อต้องเบิกถอนหรือที่เราเรียกว่าเป็นสภาพคล่องนั่นเอง
แม้ว่าจะเป็นการถอนเงินจากการฝากประจำที่ยังไม่ถึงกำหนดและไม่ได้ดอกเบี้ย แต่เงินต้นก็จะยังอยู่ครบอย่างแน่นอนและแม้ว่ารัฐบาลจะจำกัดการประกันเงินฝากของธนาคารลง ก็ไม่ได้ทำให้เงินฝากธนาคารมีดอกเบี้ยมากขึ้นจากความเสี่ยงที่มากขึ้น เพราะเงินฝากธนาคารเป็นรูปแบบการออมและการลงทุนที่คนทั่วไปคุ้นเคยกันดี ว่ามีความเสี่ยงต่ำมากนั่นเอง
ผลตอบแทนสำหรับเงินฝากปัจจุบันอยู่ที่ 0.5% ต่อปีเท่านั้น ในขณะที่เงินฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 2 ปี หรือ 3 ปี ก็จะมีดอกเบี้ยตั้งแต่ 1.25% ต่อปี ไล่ไปจนถึง 1.75% ต่อปีเท่านั้น
2.ตราสารหนี้
ตราสารหนี้จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก เป็นผลมาจากความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ของผู้กู้ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล รัฐวิสาหกิจหรือบริษัทเอกชน
ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลเราจะเรียกว่าพันธบัตรรัฐบาล ส่วนบริษัทเอกชนเมื่อต้องการกู้เงินก็จะออกเป็นหุ้นกู้ออกจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปผ่านธนาคาร โดยจะต้องให้บริษัทจัดอันดับ ออกเครดิตของหุ้นกู้นั้น ทั้งพันธบัตรและหุ้นกู้จะมีจำนวนเงินหน้าตั๋ว อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลากำหนดไว้อย่างแน่นอน
ผู้ลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้หากต้องการใช้เงินก่อนถึงเวลาครบกำหนดสามารถนำพันธบัตรและหุ้นกู้ไปขายลด ถือเป็นตราสารที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ ผลตอบแทนที่จะได้จากตราสารหนี้นั้นจะมากหรือน้อยก็ยังขึ้นอยู่กับว่าตราสารหนี้นั้นออกโดยรัฐบาล รัฐวิสาหกิจหรือบริษัทเอกชน และบริษัทนั้นมีความมั่นคงทางการเงินมากขนาดไหน และมีการจัดอันดับไว้อย่างไร
ยิ่งได้รับการจัดอันดับไว้สูงก็ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ อัตราดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนก็จะต่ำกว่า
3.กองทุนรวม
กองทุนรวมมีหลายแบบมีทั้งแบบที่นำไปลงทุนในตราสารหนี้อย่างเดียว หุ้นอย่างเดียว หรือ ผสมทั้งตราสารและหุ้น ผลตอบแทนจากกองทุนรวมจึงมีความหลากหลาย
แต่โดยเฉลี่ยแล้วผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนรวมจะอยู่ระหว่างการลงทุนในตราสารหนี้และหุ้น เพราะมีการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้หลายตัวและหุ้นหลายตัว จึงสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าและกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าด้วยนั่นเอง
4.หุ้น
ถ้าไม่นับตราสารอนุพันธ์ก็ต้องถือว่าหุ้นเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด ในขณะที่ความเสี่ยงก็มากที่สุดด้วย การลงทุนในหุ้นสามารถสร้างผลตอบแทนให้ได้มากเป็น 100% หรือมากกว่านั้น ซึ่งในขณะเดียวกันเงินลงทุนในหุ้นก็มีโอกาสขาดทุนได้มากเป็น 100% เช่นเดียวกัน การลงทุนในหุ้นจึงถือเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน
5.ตราสารอนุพันธ์
การลงทุนในตราสารอนุพันธ์นั้นถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงสุด เป็นการลงทุนกับการอ้างอิงดัชนีหรือราคาสินค้า เช่น ราคาน้ำมัน ราคาทองหรือ ดัชนีราคาหุ้น เป็นต้น
แรกเริ่มมีการใช้ตราสารอนุพันธ์เพื่อบริหารความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า
สำหรับผู้ที่มีสินค้าในมืออย่างเกษตรกร ผู้ถือหุ้นหรือผู้ถือทองคำและผู้ที่ต้องการซื้อสินค้า ที่ต่างก็กลัวว่าราคาสินค้าจะมีความผันผวนในอนาคตจึงเข้าทำสัญญากันไว้ก่อน แน่นอนว่าเมื่อถึงเวลาก็จะมีผู้ที่ได้กำไรและขาดทุนจากสัญญาฉบับเดียวกันนี้อย่างแน่นอน
สำหรับนักลงทุนที่ไม่มีสินค้าในมือ ตราสารอนุพันธ์ถือเป็นช่องทางและโอกาสในการเข้าไปเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคาสินค้าเหล่านี้ได้ ถ้ามีการคาดการณ์แนวโน้มของราคาถูกต้องก็มีโอกาสได้กำไรอย่างมหาศาล แต่ถ้าคาดการณ์ผิดพลาดก็มีโอกาสขาดทุนได้สูงมากเช่นเดียวกัน
การลงทุนแต่ละประเภทก็ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยของการลงทุนที่มีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างกันไปอีก ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เมื่อเห็นผลตอบแทนที่แตกต่างกันแบบนี้ ก็ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเราไม่ควรเลือกนำเงินลงทุนไปลงทุนในทรัพย์สินอะไรแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สุดท้ายนี้หากนักลงทุนท่านใดที่มีความต้องการจะลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ บริษัท หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส มีผลิตภัณฑ์และบริการด้านการลงทุนแก่ผู้สนใจด้านการลงทุนทุกท่านด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านหลักทรัพย์มายาวนาน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 02-680-1000 หรือ http://asiaplus.co.th