สำหรับผู้ที่สนใจในการลงทุน ก่อนอื่นเลยนั้น คุณควรที่จะทำความรู้จักกับบัญชีแต่ละประเภทว่ามีความเหมาะสมกับท่านอย่างไร เราไปดูกันเลยครับว่ามีบัญชีประเภทไหนกันบ้างให้เราได้เลือก”เปิดบัญชี”ลงทุนกันครับ
เปิดบัญชีเงินสด (Cash Account)
บัญชีสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อหลักทรัพย์โดยชำระค่าหลักทรัพย์เต็มจำนวนด้วยเงินสด โดยการพิจารณาอนุมัติวงเงิน จะประเมินจากสถานะการเงินและและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า
การซื้อขายหลักทรัพย์จะต้องชำระราคาภายใน 3 วัน นับจากวันที่ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ โดยการหักหรือเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติ (ATS)
เปิดบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance)
บัญชีที่ลูกค้าต้องวางเงินล่วงหน้าไว้กับบริษัทหลักทรัพย์เต็มจำนวนที่จะซื้อหลักทรัพย์ก่อนทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือมีข้อตกลงให้บริษัทหลักทรัพย์หักเงินตามคำสั่งของบริษัทหลักทรัพย์ในบัญชีเงินฝากธนาคารของลูกค้าที่ฝากเงินไว้เต็มจำนวนที่จะซื้อหลักทรัพย์ก่อนทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์
เปิดบัญชีเครดิตบาลานซ์ (Credit Balance)
รูปแบบการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Loan) ประเภทหนึ่ง สำหรับลูกค้าที่ต้องการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์หรือต้องการยืมหลักทรัพย์เพื่อมาขายชอร์ต (การขายชอร์ตหุ้น คือการ “ยืมหุ้น” มาเพื่อ “ขาย” โดยที่ “ไม่มีหุ้นอยู่ในครอบครอง” ณ ตอนนั้น)
ก่อนที่จะซื้อหรือขายชอร์ต ลูกค้าจะต้องนำเงินหรือหลักทรัพย์มาวางเป็นหลักประกัน โดยบริษัทฯ จะทำการปรับมูลค่าตามราคาตลาดทุกสิ้นวันทำการ ซึ่งจะทำให้อำนาจซื้อและสถานะบัญชีลูกค้าเปลี่ยนแปลงตามมูลค่าหลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงไป
หลังจากที่ท่านได้รู้กันไปแล้วนะครับว่ามีบัญชีอะไรบ้าง หากท่านใดมีความสนใจที่จะเปิดบัญชีการลงทุนกับเราสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-680-1000
สุดท้ายนี้นอกจากการเปิดบัญชีที่เหมาะสมกับท่านแล้ว การมีที่ปรึกษาทางการเงินที่ดีด้วย ย่อมส่งผลให้ท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนด้วยเช่นกันครับ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.asiaplus.co.th