เรียกได้ว่าจบลงแล้ว สำหรับการประกาศงบ Q2 ของบริษัทใน SET จนถึงเย็นวานนี้ มีบจ.แจ้งงบราว 560 บริษัท คิดเป็น 99% ของ market cap ทั้งตลาด
บจ.ทำกำไรได้ราว 2.216 แสนล้านบาท ลดลง 11% yoy และลดลง 23.2% qoq โดยลดลงเกือบทุกกลุ่ม หากไม่รวมกำไรกลุ่มแบงก์พาณิชย์ จะทำกำไรได้ 1.649 แสนล้านบาท ลดลง 12% yoy และลดลง 26.2% qoq
• กลุ่มที่กำไรลดลง ได้แก่
กลุ่มขนส่ง ลดลง 48% yoy และ 86% qoq
กลุ่ม ICT ลดลง 42% yoy และ 40% qoq
กลุ่มปิโตรเคมี ลดลง 7.5% yoy และ 42% qoq
กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ลดลง 27% และ 30% qoq
กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ลดลง 29% ทั้ง yoy และ qoq
• กลุ่มที่กำไรเพิ่มขึ้น ได้แก่
กลุ่มโรงพยาบาล เพิ่มขึ้น 67.3% yoy และ 44% qoq
กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้น 38% yoy และ 80% qoq
กลุ่มพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 15% yoy และ 2% qoq
กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เพิ่มขึ้น 34% yoy แต่ลดลง 6% qoq
กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม เพิ่มขึ้น 11% yoy แต่ลดลง 83% qoq
เมื่อนำกำไร Q2 มารวมกับ Q1 ที่ทำได้ 2.85 ล้านบาท ทำให้กำไรงวดครึ่งปีแรก อยู่ที่ราว 5 แสนล้านบาท คิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรทั้งปี 60 ที่ฝ่ายวิจัย ASP คาดไว้ที่ 9.9 แสนล้านบาท
เรามองว่า หลังจบเทศกาลแจ้งงบ Q2 แล้ว SET Index น่าจะแกว่งตัวซึม เนื่องจากยังมีปัจจัยกดดันจากการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
• กลยุทธ์ลงทุนระยะกลางและยาว หุ้นแนะนำ ได้แก่
หุ้นปันผลสูง KKP, TCAP, LH
หุ้นโดดเด่นตามฤดูกาลส่งออกและท่องเที่ยว HANA, CPF, ERW
หุ้นที่เติบโตโดดเด่น COM7, BEAUTY MTLS, VGI
หุ้นอิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก PTTGC, IVL, IRPC
หุ้นธนาคารพาณิชย์ที่ราคาลงลึกเกินไป SCB, BBL
